ความเป็นมาของ Kefir
อาจารย์ทางด้านยาจากมหาวิทยาลัยพยาบาล GLEIVITZ ในโปแลนด์ ได้นำมาสู่ยุโรปจากเอเชีย โดยในขณะที่ทำงานที่อินเดีย และธิเบต เขาป่วยด้วยโรคมะเร็งตับ พระที่ธิเบตได้นำมาให้เขากินเพื่อรักษาอาการป่วยของเขา หลังจากนั้น 18 เดือนเขาสามารถหายป่วย
ก่อนจะเดินทางกลับเขาจึงขอเห็ดนี้จากพระรูปนั้น พระรูปนั้นจึงได้ให้เขามาเป็นของขวัญ
Kefir เป็นพืชตระกูลเดียวกันกับ เห็ด และ ยีสต์
Kefir เกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของ แบคทีเรีย และ ยีสต์ ในรูปแบบของ โปรตีน, ไขมัน และน้ำตาล โมเลกุลซ้อนโมเลกุลรวมตัวกันขึ้นมาเป็นเม็ด kefir
Kefir ที่สามารถนำมาใช้กัน แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ คือ
1. Kefir น้ำ
- มีแบคทีเรียกรดแลคติค 13 ชนิด, สเตร็ปโต และ แลคโตค็อคซี 5 ชนิด, ยีสต์ 7 ชนิด - รวมทั้งหมด 25 พันธุ์
2. Kefir นม
- มีแลคโตบาซิลี 18 สายพันธุ์, สเตร็ปโต และ แลคโตค็อคซี 9 ชนิด, แอคเซโทแบคเตอร์ 2 ชนิด, ยีสต์ 12 ชนิด – รวมทั้งสิ้น มีแบคทีเรียและยีสต์ 41 สายพันธุ์
และทั้ง 2 ประเภทนี้ มีสารอาหารหลักที่สำคัญดังนี้
- ยีสต์ และ แบคทีเรียกรดแลคติก
- โปรวิตามิน : A, B1, B2, B6, D, K, กรดโฟลิค และ กรดไนโคตินิก หรือไนอาซิน หรือที่เรียกว่าวิตามินB3
- แคลเซียม, ธาตุเหล็ก และไอโอดีน
ในส่วนของ Kefir นม จะมีโปรตีนจากนม และโพลีแซ็กคาไรด์
ลักษณะรูปร่างหน้าตาของ Kefir น้ำ
*** มีแจกฟรีนะคะ และมีจำหน่ายถ้าต้องการในปริมาณมาก ***
*** หากสนใจลองเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่หน้า Page Facebook นะคะ ***
https://www.facebook.com/pages/เครื่องดื่มคีเฟอร์บัวหิมะ/549214511781175
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น