ประโยชน์มากมายจากKefir "บัวหิมะ ทิเบต"
วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
Kefir (น้ำ) Kefir (นม) และการเลี้ยงKefir
Kefir (น้ำ) และการเลี้ยงKefir
การเลี้ยง Kefir (น้ำ)
- บัวหิมะ 1 ข้อนโต๊ะ
- น้ำสะอาด 250 ml.
- น้ำตาลทรายแดง
ทำการหมักไว้ประมาณ 24 ชม. ก็จะได้รสชาติหวานอมเปรี้ยว และมีความซ่า ดื่มแล้วสดชื่นมากค่ะ
การเลี้ยง Kefir (นม)
- บัวหิมะ 1 ช้อนชา
- นมกล่อง ใส่แค่พอท่วมในครั้งแรกค่ะ เพื่อให้เมล็ดแข็งแรงขึ้นก่อน
( Kefir นม เลี้ยงยากกว่ามากค่ะ )
ทำการหมักไว้ 24 ชม. กรองเอา Kefir ออก นมนั้นทานได้นะคะแต่จะมีกลิ่นเหมือนนมบูด แต่รสชาติดีค่ะ
แล้วนำ Kefir ที่ได้จากการหมักในครั้งแรกนั้น มาหมักต่อค่ะ
ครั้งนี้ ใช้นม 250 ml. ได้เลยค่ะ หมักไว้ 24 ชม. เหมือนเดิม พอครบเวลา กรองเอานมนั้นมาดื่มได้ค่ะ
สารอาหารมากมาย และช่วยลดความอ้วนได้ดีค่ะ
- น้ำสะอาด 250 ml.
- น้ำตาลทรายแดง
ทำการหมักไว้ประมาณ 24 ชม. ก็จะได้รสชาติหวานอมเปรี้ยว และมีความซ่า ดื่มแล้วสดชื่นมากค่ะ
การเลี้ยง Kefir (นม)
- บัวหิมะ 1 ช้อนชา
- นมกล่อง ใส่แค่พอท่วมในครั้งแรกค่ะ เพื่อให้เมล็ดแข็งแรงขึ้นก่อน
( Kefir นม เลี้ยงยากกว่ามากค่ะ )
ทำการหมักไว้ 24 ชม. กรองเอา Kefir ออก นมนั้นทานได้นะคะแต่จะมีกลิ่นเหมือนนมบูด แต่รสชาติดีค่ะ
แล้วนำ Kefir ที่ได้จากการหมักในครั้งแรกนั้น มาหมักต่อค่ะ
ครั้งนี้ ใช้นม 250 ml. ได้เลยค่ะ หมักไว้ 24 ชม. เหมือนเดิม พอครบเวลา กรองเอานมนั้นมาดื่มได้ค่ะ
สารอาหารมากมาย และช่วยลดความอ้วนได้ดีค่ะ
*** มีแจกฟรีนะคะ และมีจำหน่ายถ้าต้องการในปริมาณมาก ***
*** หากสนใจลองเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่หน้า Page Facebook นะคะ ***
https://www.facebook.com/pages/เครื่องดื่มคีเฟอร์บัวหิมะ/549214511781175
Kefir กับผู้หญิง (ความสวยความงาม,สุขภาพภายใน)
Kefir กับเคล็ดลับความงามของผิวพรรณ
Kefir มีกรดอัลฟาไฮดรอกซี ที่อยู่ในรูปของกรดแลคติค ซึ่งสอดคล้องกับการค้นพบในอุตสาหกรรมการดูแลผิวพรรณ คือ "อัลฟาไฮดรอกซี" หรือ AHA ซึ่งจะพบได้ว่าเป็นกรดผลไม้ที่พบได้ใน มะนาว หรือ องุ่น และอื่นๆก็ตาม
"กรดแลคติค" มีความกลมกลืนกับสภาพความเป็นกรดของผิวหนัง และเส้นผมของเรา จึงมีการคิดค้นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวด้วยการสกัดสารเหล่านี้จากธรรมชาติ
คุณสมบัติของกรดแลคติค
กรดแลคติค จะทำหน้าที่ละลายไขมันที่ยึดกับเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วออกไป หรือเพื่อให้เกิดการผลัดเซลล์ผิว ทำให้เกิดเซลล์ผิวใหม่ขึ้นผิวจึงดูกระจ่างใส และยิ่งไปกว่านั้นคือ "สารอัลฟาไฮดรอกซี" ยังสามารถลดเลือนริ้วรอยได้ดี และลบเลือนจุดด่างดำ ฝ้า และกระที่เกิดจากแสงแดดให้จางลงได้
*** ซึ่งหากคุณมีเพียง "Kefir" ในรูปแบบของนมโยเกริตรสธรรมชาติ คุณก็ไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้วสำหรับผลิตภัณฑ์ราคาแพงตามห้างสรรพสินค้า ไม่ต้องเสี่ยงกับการเกิดผื่นแพ้จากสี หรือสารสังเคราะห์ในเครื่องสำอางค์ ***
Kefir กับเคล็ดลับการดูแลจุดซ่อนเร้น
Kefir เมื่อทานเป็นประจำจะสามารถทำให้อาการต่างๆเหล่านี้หมดไปได้
- อาการคันรอบช่องคลอด หรือในช่องคลอด
- อาการบวมแดงติดเชื้อของช่องคลอด
- อาการปวดท้องน้อยระหว่าง และหลังการมีเพศสัมพันธ์
- อาการตกขาวมีกลิ่น และเป็นก้อนหนา
สรุป
การดื่ม หรือรับประทานผลิตภัณฑ์จากKefir มีผลดีต่อร่างกายของผู้หญิงเราทุกด้านเลยนะคะ
- ผิวพรรณขาวใส เปร่งประกาย ออร่า มาจากภายใน เห็นผลได้ภายใน 7-15 วัน
- อาการปวดท้องขณะมีประจำเดือนจะหายไป
- หากต้องการรักษาสิว สามารถนำนมโยเกริตมาทาได้ ลดการอักเสบของสิวลงอย่างเห็นได้ชัด
- เมื่อรับประทานต่อเนื่องผิวพรรณจะดูขาวใส สุขภาพดี เหมือนมีออร่าเปร่งประกาย อย่างเห็นได้ชัด
*** มีแจกฟรีนะคะ และมีจำหน่ายถ้าต้องการในปริมาณมาก ***
สรุป
การดื่ม หรือรับประทานผลิตภัณฑ์จากKefir มีผลดีต่อร่างกายของผู้หญิงเราทุกด้านเลยนะคะ
- ผิวพรรณขาวใส เปร่งประกาย ออร่า มาจากภายใน เห็นผลได้ภายใน 7-15 วัน
- อาการปวดท้องขณะมีประจำเดือนจะหายไป
- หากต้องการรักษาสิว สามารถนำนมโยเกริตมาทาได้ ลดการอักเสบของสิวลงอย่างเห็นได้ชัด
- เมื่อรับประทานต่อเนื่องผิวพรรณจะดูขาวใส สุขภาพดี เหมือนมีออร่าเปร่งประกาย อย่างเห็นได้ชัด
*** มีแจกฟรีนะคะ และมีจำหน่ายถ้าต้องการในปริมาณมาก ***
***หากสนใจลองเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่หน้า Page Facebook นะคะ ***
https://www.facebook.com/pages/เครื่องดื่มคีเฟอร์บัวหิมะ/549214511781175
Kefir กับประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักที่ให้สารอาหารครบถ้วน
Kefir กับการลดน้ำหนักที่ให้สารอาหารครบถ้วน
โดยปกติทั่วไปเรามักจะเลือกที่จะรับประทานนมไขมันต่ำ ( Low Fat ) เพื่อลดน้ำหนัก และเพื่อยังคงได้รับสารอาหารที่สำคัญจากนม นั่นคือ " แคลเซียม "
นมนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับคนทุกวัย ตั้งแต่เด็กนั้นจำเป็นเพื่อการรักษาสุขภาพของกระดูกและฟัน ป้องกันโรคกระดูกพรุน ซึ่งการดื่มนมนั้น ร่างกายจะมีการดูดซึมแคลเซียมได้ดีกว่าแคลเซียมในรูปของอาหารเสริม
เปรียบเทียบการได้รับสารอาหารจากนมไขมันต่ำ( Low Fat ) กับผลิตภัณฑ์นมKefir( Low Fat )
( กรณีศึกษาที่เลือกรับประทานนมไขมันต่ำแทนอาหาร )
นมไขมันต่ำ ( Low Fat )
- ลดน้ำหนักลงได้จริง
- โปรตีนจากสารอาหารในนมน้อยมาก
ผลิตภัณฑ์นมKekir ( Low Fat )
- ลดน้ำหนักได้จริง
- Kefir เป็นตัวสะสมแคลเซียมซึ่งต่อ 1 มื้อในการรับประทานจะให้ แคลเซียมมากถึง 30% และโปรตีน 28% ของปริมาณสารอาหารที่ร่างกายควรจะได้รับต่อวันอีกด้วย
สรุป Kefir สามารถให้สารอาหารจำเป็นที่ร่างกายต้องการได้เกือบครบถ้วน สามารถรับประทานแทนมื้ออาหารได้โดยไม่ต้องกลัวว่าร่างกายจะขาดสารอาหาร จึงทำให้Kefir เป็นอาหารที่ใช้ลดน้ำหนักได้อย่างดีทีเดียว
*** มีแจกฟรีนะคะ และมีจำหน่ายถ้าต้องการในปริมาณมาก ***
*** หากสนใจลองเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่หน้า Page Facebook นะคะ ***
https://www.facebook.com/pages/เครื่องดื่มคีเฟอร์บัวหิมะ/549214511781175
https://www.facebook.com/pages/เครื่องดื่มคีเฟอร์บัวหิมะ/549214511781175
สรรพคุณมากมายของ Kefir "บัวหิมะ"
สรรพคุณมากมายของ Kefir "บัวหิมะ"
- ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส
- มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระช่วยในการชะลอวัยและลดการเกิดริ้วรอย
- เป็นยาจากธรรมชาติที่ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ
ต่อร่างกาย
- ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานในร่างกาย
- ช่วยปรับสมดุลในร่างกาย ความเป็นกรด-ด่าง
ให้เป็นปกติ
- ช่วยบำรุงร่างกาย บรรเทาอาการเหนื่อยล้า
- ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของเซลล์ต่างๆในร่างกาย
- ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง
- ช่วยลดความเครียด รักษาอาการซึมเศร้า
ทำให้อารมณ์ดี
- ช่วยทำให้นอนหลับสบายมากยิ่งขึ้น
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งและการแพร่ขยายตัวของเซลล์มะเร็ง
- มีส่วนช่วยยับยั้งการเติบโตของเนื้องอก
- ช่วยเพิ่มปริมาณเม็ดเลือดขาวให้แก่ร่างกาย
- ช่วยบำรุงหัวใจ
ป้องกันและรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับหัวใจ อย่างโรคหัวใจขาดเลือด เป็นต้น
- ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
ยับยั้งการสร้างคอเลสเตอรอลในร่างกาย
- ช่วยในการเผาผลาญสารอาหารจำพวกน้ำตาล
- ช่วยควบคุมคุมน้ำหนักในร่างกาย
- ช่วยรักษาอาการแพ้น้ำตาลแลคโตส
- ช่วยบำรุงและเสริมสร้างกระดูกและฟัน
- ช่วยให้ความดันโลหิตเป็นปกติ
ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง
- ช่วยลดอาการไข้
- ช่วยรักษาโรคภูมิแพ้
- ช่วยรักษาโรคเมตาบอลิกซินโดรม (อ้วนลงพุง)
- ช่วยรักษาโรควัณโรค
- ช่วยบำบัดรักษาโรคปอด
- ช่วยรักษาแผลในกระเพาะ ลำไส้เล็กส่วนต้น
และช่วยบำรุงลำไส้
- ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานปกติและดียิ่งขึ้น
ลำไส้บีบตัวได้ดียิ่งขึ้น
- ช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร
- ช่วยป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร
- เป็นอาหารที่เหมาะกับทารกหรือผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร
- ช่วยแก้ปัญหาอาการประจำเดือนมาไม่เป็นปกติ
- ช่วยบำรุงตับ ไต และรักษาตับ ไตอักเสบ
- ช่วยรักษาโรคของถุงน้ำดี นิ่วในถุงน้ำดี
และช่วยละลายก้อนนิ่วในไต
- ช่วยรักษาแผลพุพอง น้ำร้อนลวก
- นำมาใช้ทาเพื่อรักษาโรคผิวหนังต่างๆ เช่น
เชื้อราบนผิวหนัง กลาก เกลื้อน เป็นต้น
- การดื่มคีเฟอร์ช่วยให้ผู้ป่วยเอดส์
และผู้ป่วยโรคมะเร็งมีอาการดีขึ้น
(ผลการวิจัยยังไม่ชัดเจน)
- ช่วยลดอาการแพ้ยาหรือเซรุ่มชนิดต่างๆ
- ช่วยรักษาสารพิษจากยาเสพติดในร่างกาย
- ใช้เลี้ยงทารกที่คลอดก่อนกำหนด
ช่วยให้เด็กมีสุขภาพแข็งแรง
- ช่วยเสริมสร้างการทำงานของแบคทีเรียในลำไส้ของเด็กทารก
- ช่วยป้องกันและรักษาโรคตับอ่อนในเด็ก โรคปอดบวม
ปลอดลมอักเสบในเด็กที่อายุกว่า 2 ขวบ
- มีสารต่างๆอย่างวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
อย่าง ธาตุแคลเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ธาตุไอโอดีน วิตามินเอ
วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี5วิตามินบี6 วิตามินบี12 กรดโฟลิก
ไบโอติน วิตามินดี วิตามินเค เป็นต้น
- โยเกิร์ตบัวหิมะ นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 30 นาที (หรือจนกว่าจะแห้ง) เพื่อช่วยให้หน้าขาวเนียนใส รักษาสิวแผลสิว
และช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียน
- นมหมักคีเฟอร์ช่วยให้อยู่ท้องอิ่มนาน
- บัวหิมะรักษาสิว
ด้วยการนำมาใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางที่ช่วยในเรื่องของการรักษาสิว
กระชับรูขุมขน ทำให้หน้าเต่งตึงอ่อนเยาว์
*** มีแจกฟรีนะคะ และมีจำหน่ายถ้าต้องการในปริมาณมาก ***
*** หากสนใจลองเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่หน้า Page Facebook นะคะ ***
https://www.facebook.com/pages/เครื่องดื่มคีเฟอร์บัวหิมะ/549214511781175
ทำความรู้จักกับKefir และสารอาหารจากKefir
ความเป็นมาของ Kefir
อาจารย์ทางด้านยาจากมหาวิทยาลัยพยาบาล GLEIVITZ ในโปแลนด์ ได้นำมาสู่ยุโรปจากเอเชีย โดยในขณะที่ทำงานที่อินเดีย และธิเบต เขาป่วยด้วยโรคมะเร็งตับ พระที่ธิเบตได้นำมาให้เขากินเพื่อรักษาอาการป่วยของเขา หลังจากนั้น 18 เดือนเขาสามารถหายป่วย
ก่อนจะเดินทางกลับเขาจึงขอเห็ดนี้จากพระรูปนั้น พระรูปนั้นจึงได้ให้เขามาเป็นของขวัญ
Kefir เป็นพืชตระกูลเดียวกันกับ เห็ด และ ยีสต์
Kefir เกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของ แบคทีเรีย และ ยีสต์ ในรูปแบบของ โปรตีน, ไขมัน และน้ำตาล โมเลกุลซ้อนโมเลกุลรวมตัวกันขึ้นมาเป็นเม็ด kefir
Kefir ที่สามารถนำมาใช้กัน แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ คือ
1. Kefir น้ำ
- มีแบคทีเรียกรดแลคติค 13 ชนิด, สเตร็ปโต และ แลคโตค็อคซี 5 ชนิด, ยีสต์ 7 ชนิด - รวมทั้งหมด 25 พันธุ์
2. Kefir นม
- มีแลคโตบาซิลี 18 สายพันธุ์, สเตร็ปโต และ แลคโตค็อคซี 9 ชนิด, แอคเซโทแบคเตอร์ 2 ชนิด, ยีสต์ 12 ชนิด – รวมทั้งสิ้น มีแบคทีเรียและยีสต์ 41 สายพันธุ์
และทั้ง 2 ประเภทนี้ มีสารอาหารหลักที่สำคัญดังนี้
- ยีสต์ และ แบคทีเรียกรดแลคติก
- โปรวิตามิน : A, B1, B2, B6, D, K, กรดโฟลิค และ กรดไนโคตินิก หรือไนอาซิน หรือที่เรียกว่าวิตามินB3
- แคลเซียม, ธาตุเหล็ก และไอโอดีน
ในส่วนของ Kefir นม จะมีโปรตีนจากนม และโพลีแซ็กคาไรด์
ลักษณะรูปร่างหน้าตาของ Kefir น้ำ
*** มีแจกฟรีนะคะ และมีจำหน่ายถ้าต้องการในปริมาณมาก ***
*** หากสนใจลองเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่หน้า Page Facebook นะคะ ***
https://www.facebook.com/pages/เครื่องดื่มคีเฟอร์บัวหิมะ/549214511781175
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)